ขับเคลื่อนโดย Blogger.
RSS

QR Code ข้อสอบกีต้าร์ 1

QR Code

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

การเทียบระดับเสียงกีตาร์

                        ในความเป็นจริงแล้วเป็นเรื่องใหญ่ที่นักกีตาร์มือใหม่มักมองข้าม เพราะตัวกีตาร์
สายเพี้ยนจะเล่นเพลงให้ไพเราะก็ย่อมเป็นไปไม่ได้ และเป็นการบั่นทอนกำลังใจเวลาฝึกหัดเสียอีก
ว่าเล่นเท่าไรเสียงก็มักแปร่ง ๆ เสมอ
                        การเทียบเสียงด้วยตัวเองเป็นสิ่งสำคัญมาก ผู้เริ่มฝึกหัดควรจะฝึกเทียบระดับเสียง
ทุกวัน จนกว่าจะจับระดับเสียงที่ถูกต้องได้ และควรเทียบระดับเสียงก่อนเล่นทุกครั้ง ฝึกให้เป็นนิสัย
                        การเทียบระดับเสียง มีหลักการใหญ่ ๆ อยู่ 3 แบบ ได้แก่
                        1. เทียบเสียงกับคีย์บอร์ด เราจำเป็นต้องรู้ระดับเสียงของสายแต่ละเส้น แล้วจึงเทียบ
กับคีย์บอร์ด ให้เสียงทั้งสองนั้นกลมกลืนกัน


มิดเดิ้ล C ( Middle  C )
                Description: scan0062








                        2. เทียบเสียงโดยใช้สาย 6 เป็นหลัก

                        กดสาย  ช่องที่  แล้วเทียบให้ตรงกับเสียง  เป็นหลัก
                        กดสาย  ช่องที่  เทียบกับสายเปล่าสาย  ซึ่งจะเป็นโน้ตเสียง  D
                        กดสาย  ช่องที่  เทียบกับสายเปล่าสาย  ซึ่งจะเป็นโน้ตเสียง  G
                        กดสาย  ช่องที่  เทียบกับสายเปล่าสาย  ซึ่งจะเป็นโน้ตเสียง  B
                        กดสาย  ช่องที่  เทียบกับสายเปล่าสาย  ซึ่งจะเป็นโน้ตเสียง  E
                             เมื่อเทียบสายได้คล่องแคล่วแล้ว วิธีนี้อาจใช้สายใดสายหนึ่งเป็นหลักก็ได้ แล้วจึง
เทียบโดยใช้หลักการเดียวกัน
                               Description: scan0063
                        3. เทียบเสียงด้วยเสียงฮาโมนิค (Harmonic)
                        วิธีปฏิบัติเสียงฮาโมนิค คือ การที่เราใช้นิ้วมือซ้ายแตะสายที่ต้องการเบา ๆ เหนือ
เฟร็ทกีตาร์ โดยไม่ต้องออกแรงกดแล้วดีดด้วยมือขวา เพียงจะออกมาลักษณะ ก้อง , กังวาลคล้าย
เสียงระฆัง
                        การเทียบสายลักษณะนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ฝึกปฏิบัติกีตาร์มานานแล้ว หรือนักดนตรี
อาชีพ เพราะสามารถเทียบเสียงได้รวดเร็ว และเสียงฮาโมนิคนั้น ชัดเจนกว่าการเทียบโน้ตสายเปล่า
ทำให้ฟังง่าย
                        ก่อนอื่น เทียบเสียงสายที่ 6 ให้เป็นเสียง E แล้วทำการเทียบเสียง  ดังรูป

                            
                        วิธีตั้งสายหรือเทียบระดับเสียงนั้น ยังวิธีอื่นอีกมากมาย และบางวิธีที่กล่าวมาแล้ว
ผู้ที่ชำนาญอาจมีวิธีเทียบเสียงแตกต่างกันอีก แต่ทั้งนี้เพื่อจุดประสงค์เดียวกัน คือ เทียบสายให้ได้
ระดับเสียงมาตรฐาน

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS


การบำรุงดูแลรักษาอุปกรณ์

                        การบำรุงดูแลรักษาอุปกรณ์นับเป็นความจำเป็น และสำคัญอย่างหนึ่งในการเล่น
ดนตรี ผู้ที่เล่นดนตรีทุกคนควรหมั่นทำความสะอาดเครื่องมือของตนก่อนเล่น เพื่อตรวจสภาพของ
เครื่องว่าปกติดีหรือไม่ และทำความสะอาดหลังการซ้อม หรือการเล่นเพื่อทำความสะอาดคราบ
เหงื่อและไขมันต่าง ๆที่ออกไปจากตัวเรา และพวกฝุ่นละอองตกค้างทั้งหลาย
                        การขาดการดูแลรักษา มีผลตามมาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสีของเครื่องจะดูเก่า ,
เสียงไม่ดี เพราะมีสนิมเกิดขึ้นที่สาย และโดยเฉพาะพวกอุปกรณ์ที่เป็นโลหะ อาจเกิดสนิมขึ้น หรือ
มีรอยด่างต่าง ๆ ซึ่งเกิดจากผลของการสัมผัสและมีคราบเหงื่อแล้วไม่ได้ทำความสะอาด ถ้าไม่ดูแล
ในสิ่งเหล่านี้ อีกไม่นานก็ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่
                        เครื่องดนตรีประเภทกีตาร์ไฟฟ้าและกีตาร์เบสนั้น เป็นเครื่องที่คล้ายกันและทำ
ความสะอาดค่อนข้างจุกจิกกว่าเครื่องชนิดอื่น เริ่มต้นจาก
                        1. ลำตัว (Body) ในส่วนของลำตัว มีวิธีทำความสะอาดหลายวิธี ขึ้นอยู่กับลักษณะ
ของวัสดุที่ใช้เคลือบลงบนพื้นผิว ส่วนใหญ่เป็นประเภทแลคเกอร์ หรือสีต่าง ๆ แล้วเคลือบทับด้วย 
แลคเกอร์ยูรีเทน , วานิช หรือจะเป็นสีประเภท epoxy , Polyester  ฯลฯ ต่างก็เป็นวัสดุที่มีความแข็ง
ของพื้นผิวที่แตกต่างกันไป ถ้าเรียงลำดับแล้ว พวกที่เคลือบด้วยแลคเกอร์ หรือวานิชจะมีความ
แข็งแรงของพื้นผิวน้อยกว่าการเคลือบด้วยวัสดุประเภทอื่น ๆ
                        ดังนั้นการทำความสะอาดจึงขึ้นอยู่กับประเภทของวัสดุที่เคลือบ และความสกปรก
ที่เกิดขึ้นบนพื้นผิวนั่นเอง โดยเริ่มจาก
                             1) ผ้า  เป็นวัสดุหลักในการทำความสะอาดเป็นสิ่งแรก ผ้าที่ใช้เป็นพวกผ้าสำลี
หรือผ้าเก่า ๆ ที่ไม่ได้ใช้แล้ว แต่ต้องเป็นผ้าค่อนข้างนิ่ม ถ้าใช้ผ้าแข็งมาใช้เช็ด อาจทำความสะอาด
ไม่ได้ดีเท่าที่ควร และอาจเกิดรอยเป็นเส้นเล็ก ๆ ที่เรียกว่า รอยขนแมว
                             เราสามารถใช้ผ้าทำความสะอาดส่วนต่าง ๆ ของเครื่องได้แทบทุกส่วน โดย
ไม่ต้องใช้น้ำยาต่าง ๆ มาช่วยในการเช็ดถูเลย
                             2) น้ำอุ่น เป็นวิธีที่ค่อนข้างดีที่สุดในทุกกรณี ไม่ว่าจะมีคราบสกปรกมาก น้อย
เท่าไร หรือจะใช้ในลักษณะทำความสะอาดช่วงแรกก่อนที่จะใช้วัสดุประเภทอื่น ๆ มาช่วยขัดก็ได้
และยังช่วยให้ประหยัดไปในตัว ก่อนใช้วัสดุอื่นที่จะใช้ตาม เพราะคราบสกปรกจะถูกขจัดออกไป
ส่วนหนึ่งแล้ว
                             วิธีใช้นำผ้าชุบน้ำแล้วบิดให้แห้ง แล้วเช็ดควรออกแรงกดบ้างเล็กน้อย เพื่อให้
สะอาดจริง เมื่อเช็ดเสร็จก็ใช้ผ้าแห้งเช็ดตาม วิธีนี้ง่ายและไม่มีผลเสียกับผิวและสีของเครื่อง


]
                             3) น้ำมันไฟแช็ค เป็นวัสดุที่สามารถใช้เช็ดหรือล้างหลาย ๆ ส่วนของกีตาร์ ไม่ว่า
จะเป็นด้วยคุณสมบัติที่แห้งเร็ว และไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อสี หรือวัสดุที่เช็ด
                             วิธีใช้งานก็คล้ายกับน้ำอุ่น เพียงแต่หยดลงบนผ้าแห้งสักเล็กน้อย รอสักครู่ให้แห้ง
หมาด ๆ แล้วเริ่มเช็ด ในระหว่างที่เช็ดจะเห็นว่ามีคราบสกปรกออกมาติดผ้า แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดตาม
วิธีนี้ไม่ควรใช้ติดต่อกัน ควรเว้นช่วง 1 – 2 อาทิตย์ ต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับการใช้งานและการดูแลรักษา
                             4) น้ำยาทำความสะอาดกีตาร์ (Guitarpolish)  วัสดุประเภทนี้จะเป็นลักษณะของ
การนำเอาสารเคมีต่าง ๆ มาผสมกัน มีพวกสารที่ใช้ขัดเพื่อเอาส่วนสกปรกออก และมีสารเคลือบเงา
ประเภท wax ซึ่งเป็นตัวเคลือบผิว ทำให้เงาและลื่น เช่น ยี่ห้อ Matin ,  Jim  Dunlop
                             เนื่องจากน้ำยาดังกล่าวมีสารที่ขัดและเคลือบเงา หากเราใช้บ่อยครั้งก็เหมือนกับ
เราขัดสีออกไปทีละน้อย แต่เราเอา wax มาเคลือบแทนที่ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สีของกีตาร์เปลี่ยน
ไปได้
                             5) น้ำยาขัดละเอียด และขัดหยาบ เป็นวัสดุใช้ขัดสีในอู่ซ่อมรถยนต์เหมาะสำหรับ
กีตาร์ที่ใช้สีประเภท Epoxy , ยูนิเทน หรือประเภทสีที่มีผิวแข็งเคลือบเท่านั้น สีที่ใช้น้ำเป็นส่วนผสม
ในการพ่น หรือประเภทแลคเกอร์ และวานิช ไม่เหมาะแก่การใช้เพราะมีผิวที่ค่อนข้างอ่อนเกินไป
เวลาใช้จะทำให้เกิดผลเสียภายหลัง ส่วนใหญ่จะใช้เป็นกรณีสุดท้าย คือทั้งสกปรก และปรากฎเป็น
รอยขนแมวมาก แต่เมื่อขัดเสร็จแล้ว ก็ควรขัดด้วยน้ำยาเคลือบกีตาร์อีกครั้ง
                        2. คอกีตาร์ (Fingerboard )ในการทำความสะอาดแยกได้ 2 ประเภท คือ
                             2.1. คอกีตาร์ประเภทเคลือบแลคเกอร์  มักเป็นแบบมี่ใช้ไม้เมเปิ้ล (Maple) ทำ
สังเกตได้จากส่วนคอที่มีสีขาว การทำความสะอาดคอประเภทนี้ต้องระวัง
                                  ขั้นตอนทำความสะอาด
                                  1) ใช้เพียงผ้าแห้งค่อย ๆ เช็ด ถ้าคราบสกปรกยังไม่ออก ก็ใช้ผ้ากับน้ำอุ่นเช็ด
                                  2) ถ้าคราบอยู่ตามซอก ให้ใช้แปรงสีฟันขัด ระวังอย่าให้เกิดรอย หรือใช้
น้ำมันไฟแช็คหยดลงไปสักเล็กน้อย แล้วค่อย ๆ ขัด เมื่อเรียบร้อยแล้วใช้ผ้าสะอาดเช็ดอีกครั้ง
                                  ข้อควรระวัง
                                  ถ้าส่วนไหนที่มีรอยในลักษณะผิวที่เคลือบโดนขูดออกไป ควรใช้ผ้าสะอาด
และแห้งเช็ดเท่านั้น
              





                             2.2. คอกีตาร์ประเภทไม่ได้เคลือบแลคเกอร์
                                  ขั้นตอนทำความสะอาด
                                  1) ใช้แปรงทาสีปัดฝุ่นต่าง ๆ ออกจาก Fingerboard
                                  2) ใช้แปรงสีฟันถู ไล่ไปตามเฟร็ท (Fret) และช่องระหว่างเฟร็ททุกอัน
                                  3) ใช้แปรงปัดอีกครั้ง แล้วเอาผ้าแห้งเช็ดตาม ระวังอย่าใช้เล็บขีดไปตามซอก
หรือกดลงบนพื้นผิวของ Fingerboard ซึ่งจะเป็นรอยมากกว่าเดิมได้
                                  4) กรณีที่ผิวของ Fingerboard แห้งเกินไป ให้ใช้น้ำมัน Lemon  oil  หยดลง
บนผ้าสะอาดเล็กน้อย แล้วค่อย ๆ เช็ดไปตามช่องบน Fingerboard ทุกช่อง จากนั้นทิ้งไว้สักครู่
ค่อยใช้ผ้าแห้งเช็ดตามอีกครั้ง
                        3. หย่อง หรือ Bridges  โดยทั่วไปจะมี 3 ประเภทใหญ่ ๆ  ได้แก่
                                  3.1 แบบ Strat  Style  Tremolo Bridges  ที่ใช้ในกีตาร์ยี่ห้อ  Fender ในรุ่นที่มี
คันโยก ไม่ว่าจะเป็นรุ่นเก่า หรือใหม่ ก็มีส่วนประกอบที่คล้ายกัน หรือจะเป็นยี่ห้ออื่น ส่วนใหญ่แล้ว
รูปร่างและลักษณะจะไม่แตกต่างกันมากนัก อาจต่างกันที่วัสดุที่ใช้ทำขึ้นมาเท่านั้น
                                  ในส่วนของ หย่อง (Bridges) นั้น มีส่วนประกอบที่สำคัญอยู่ไม่กี่ชิ้น แต่การ
ทำความสะอาดส่วนที่สำคัญที่สุด คือ ส่วนที่เรียกว่า Saddles
                                
                        Description: scan0054

                                  เพราะ Saddles เป็นส่วนที่ต้องรองรับความสั่นสะเทือนของสาย อีกทั้งรองรับ
น้ำหนักแรงดึง และแรงที่เราดีดสายในแต่ละครั้ง ปัญหาที่พบอยู่เสมอคือ สนิมที่จับตัวกันอยู่บริเวณ
ที่มือของเรามักจะไปสัมผัส ในส่วนนี้มักมีสนิมมาเกาะติดอยู่อย่างค่อนข้างถาวร เพราะเป็นส่วนที่
ยากแก่การทำความสะอาด
                                 




                                  ขั้นตอนทำความสะอาด
                                  1) ถอดแยกชิ้นส่วนต่าง ๆ ของ Saddles ออกมา
                                  2) ส่วนที่เป็นสนิมให้ใช้แปรงทองเหลืองแบบมีด้ามขัด ขัดเอาสนิมออก
                                  3) แต่ถ้าเป็นน็อตที่ยึดอยู่มีสนิมเกาะอยู่แน่นถอดไม่ออก ให้ใช้น้ำยา Sonax
ฉีดทิ้งไว้สักครู่ แล้วขันออกอีกครั้ง เมื่อนำน็อตออกมาได้ ให้นำใส่กระป๋องแล้วฉีดน้ำยา Sonax
ให้ท่วมเหนือน็อต ปล่อยทิ้งไว้จนกว่าสนิมจะถูกกัดออกหมด
                                  4) การทำความสะอาด Saddles ให้ใช้น้ำยาขัดโลหะ Venol  ขัดเอาสิ่งสกปรก
ที่ฝังอยู่ในเนื้อเหล็กออก เมื่อเห็นว่าสะอาดดีแล้ว ให้นำไปแช่น้ำยา Sonax เพื่อให้สนิมที่อยู่ในรู
ที่ใส่น็อตหลุดออกไปให้หมด
                                  3.2. แบบ Gibson  Style  Bridge And  Tailpieces  ตัว Bridges ประเภทนี้
จะแบ่งเป็น 2 ช่วง คือช่วงตัวของ Bridges ส่วนใหญ่จะใช้แบบที่เรียกว่า  Tune – O – Matic 

            

                                 ซึ่งมีแบบของการติดตั้งอยู่ 2 แบบ ส่วนอีกช่วงหนึ่ง คือ ตัวที่เรียกว่า Tailpieces
ทางด้านการทำความสะอาดจะคล้ายกับแบบแรก ต่างกันตรงที่ใช้เพียงแปรงสีฟันขัดในส่วนต่าง ๆ
เพราะส่วนใหญ่แล้ว มักจะไม่ค่อยเป็นสนิม แต่อาจเป็นคราบ หรือรอยต่าง ๆ มากกว่า
                                 รอยเหล่านี้เกิดจากการลอกของวัสดุที่ใช้เคลือบและการถูกขัดสีจากมือที่สัมผัส
แต่ถ้าจะมีก็เป็นคราบที่มีสีลักษณะออกเขียว ให้ใช้น้ำยาขัดทองเหลืองขัดออก จะได้ไม่ทำให้เกิด
รอยบริเวณอื่น




                                  3.3. แบบ Locking Tremolo หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ  Floyd  Rose
                                  เครื่องมือแบบนี้มักไม่มีปัญหาเรื่องสนิม ส่วนมากมักเป็นเรื่องฝุ่นผงที่หลุด
เข้าไปติดตามซอกต่าง ๆ มากกว่า และอาจจะมีเรื่องของการสึกหรอบางส่วน
                                  ในการทำความสะอาดจะใช้แปรงสีฟันขัดตามบริเวณต่าง ๆ โดยเฉพาะตรง
ส่วนด้านใต้ของ Saddles และตรงช่วงใต้น็อต Fine Tune  ก็มักจะมีฝุ่นเกาะอยู่เป็นจำนวนมาก
เมื่อเสร็จแล้วใช้น้ำมันไฟแช็คเช็ดตามอีกครั้ง เพื่อขจัดคราบน้ำมันจากมือเราที่ไปติดกับส่วนที่
ทำความสะอาด
                                  ในกรณีที่มีสนิมขึ้นที่น็อตที่ใช้ล็อคสายกีตาร์ ให้เช็ดด้วยน้ำมันไฟแช็ค หรือ
น้ำมัน Sonax ถ้าเป็นส่วนที่ต้องการให้มีน้ำมันหล่อลื่น ให้เลือกใช้น้ำมัน Sonax เป็นตัวทำความ
สะอาด โดยฉีดลงบนผ้า แล้วนำไปเช็ดล้างตามจุดที่ต้องการ ไม่ควรฉีดลงไปโดยตรง เพราะจะทำ
ให้ฝุ่นมาเกาะติดได้ง่าย


                                 







                        4. ลูกบิด การทำความสะอาดส่วนนี้ ก็เหมือนกับการทำความสะอาด Bridges
                                  ขั้นตอนทำความสะอาด
                                  1) ถอดลูกบิดออกจากตัวกีตาร์ แล้วใช้น้ำยาขัดโลหะทำความสะอาด
                                  2) ถ้าลูกบิดตัวไหนที่ฝืดให้ใช้จารบีขาวใส่ แต่ถ้าเป็นรุ่นที่มีน็อตขันอยู่ด้านใน
ก็ลองหมุนดูก่อน บางทีอาจจะขันแน่นเกินไป ทำให้ฝืดหรือลื่นเกินไป

                                   Description: scan0060

                        5. อุปกรณ์อิเลคทรอนิค    การทำความสะอาดอุปกรณ์ประเภทนี้ คือการทำความ
สะอาดพวกปุ่มสวิทต่าง ๆ ในกรณีที่เราทำความสะอาดส่วนต่าง ๆ แล้ว ควรทำความสะอาดส่วน
เหล่านี้ด้วย เพียงใช้สเปรย์ล้างคอนแท็คฉีดตาม ดังรูป  เท่านี้ก็สามารถยืดอายุและรักษาอุปกรณ์
เหล่านี้ให้ทำงานได้ปกติ

                                                






การทำความสะอาดคีย์บอร์ด

                   โดยปกติแล้วการทำความสะอาดเครื่องคีย์บอร์ดจะใช้เพียงผ้าสะอาดที่อ่อนนุ่ม
เช็ดทำความสะอาดเพียงอย่างเดียว ไม่ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดอื่น ๆ ฉีดหรือเช็ด จะทำให้
ตัวเครื่องด่าง หรือน้ำยาซึมเข้าตัวเครื่องบริเวณหน้าปัด , ร่องของปุ่มกดเปลี่ยนโปรแกรมเสียง
อาจทำให้แผงวงจรความจำเครื่องชำรุดได้

การทำความสะอาดกลอง

                   กลองชุดจะมีส่วนประกอบแยกได้ดังนี้

                        1. ส่วนของโลหะ ได้แก่  ขาตั้งฉาบ , ฉาบต่าง ๆ และวงแหวนขอบกลอง
                        2. ตัวถังกลอง ได้แก่ ตัวกลองเบส , กลองสแนร์ และกลองทอม
                   1. ส่วนของโลหะ
                        ควรใช้น้ำยาบัสโซเช็ดทำความสะอาด คราบที่ปรากฏมักได้แก่ คราบเหงื่อ คราบรอย
นิ้วมือ หรือ คราบฝุ่นละอองที่จับตัวกันมานาน หลังจากใช้น้ำยาบัสโซแล้วควรใช้ผ้าสะอาดเช็ด
คราบน้ำยาอีกครั้งเท่านั้นพอ
                   2. ตัวถังกลอง
                        ส่วนใหญ่จะทำจากไม้หลาย ๆ แผ่นอัดติดกันด้วยเครื่องจักรที่มีแรงอัดสูงโดยใช้

กาวและความร้อน ส่วนตัวกลองชั้นนอกสุดจะเป็นไม้คีรีบอร์ดสีต่าง ๆ หรือไฟเบอร์คลาส

ดังนั้นการทำความสะอาดตัวถังกลองจึงใช้ผ้าสะอาดเช็ดเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว
                                      Description: scan0219

1. DIY . “DO  IT  YOUR  SELF” THE QUIET STORM. . 150. ,มปท., 1995. หน้า 82 – 83.
2. DIY . “DO  IT  YOUR  SELF” THE QUIET STORM. . 151. ,มปท., 1995. หน้า 54 – 56.

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

เด็กเล่นกีต้าร์




  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

ประวัติความเป็นมาของกีตาร์


  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS